ไหว้พระวัดเขาเต่า Kek Lok Si วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในปีนัง

ใครมาเที่ยวปีนังอย่าลืมแวะขึ้นมาไหว้พระกันที่ Kek Lok Si หรือวัดเขาเต่า เป็นวัดจีนพุทธ นิกายมหายาน ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัดนี้มีความงดงาม อลังการมากๆ โดยด้านในจะมีหอพระให้สักการะองค์พระขอพรหลากหลาย นักท่องเที่ยวมักมาขอพรเรื่องโชคลาภและสุขภาพ ยิ่งช่วงเทศกาลก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่ควรค่าแก่การไปสักการะ

Kek Lok Si วัดพุทธเก็กลกสี่

วัดเก็กลกสี่ Temple of Supreme Bliss หรือที่รู้จักกันดีในอีกชื่อว่า วัดเขาเต่า เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในวัดดังของปีนัง คำว่า “Kek Lok Si” นั้น มีความหมายว่า “วัดความสุขสูงสุด” ในอดีตนั้นมีความเชื่อว่า สถานที่แห่งนี้เป็นฮวงจุ้ยที่ดีเหมาะแก่การสร้างวัด ภายในเต็มไปด้วย สถาปัตยกรรมแบบผสม ทั้ง ไทย จีน และ พม่า เรียกได้ว่าที่นี่กลายเป็นจุดรวมแห่งความศรัทธาจากผู้คนทั่วทุกมุมโลก

ประวัติวัดเก็กลกสี่

วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) ตั้งอยู่ที่อีร์อิตัม หรือบนเนินเขาที่ชื่อ Air Itam วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1885 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1905
ตามแนวคิดของพระรูปหนึ่งที่มีนามว่า เปียว เหลียน (Beow Lean) พระจีนจากมณฑลฟูเจี้ยน โดยวัดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นเพราะนักบวชลัทธิเต๋าและพระสงฆ์ศึกษาธรรมกันอยู่ที่นี่ ภายในวัดจะมีสิ่งที่น่าสนใจหลากอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหอสวดมนต์ เจดีย์ หอระฆัง และสระเต่า

สิ่งที่น่าทำเมื่อมาเที่ยววัดเก็กลกสี่

เยี่ยมชมหอสวดมนต์

ภายในหอสวดมนต์นี้จะมีที่นั่งสำหรับผู้ที่ต้องการสวดมนต์ และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 3 องค์ใหญ่ นั่นก็คือ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์
นอกจากนี้ก็ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดเล็กประทับตามผนังอยู่ด้วย สามารถเข้ามาจุดธุปไหว้บูชา หรือนั่งสวดมนต์ได้เช่นกัน
ซึ่งในช่วงเทศกาล ก็ต่างมีนักท่องเที่ยว และชาวมาเลเซีย แวะเวียนมากราบไหว้บูชาอย่างไม่ขาดสาย

เจดีย์สมเด็จพระรามหก 

เจดีย์สมเด็จพระรามหก หรือ เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์ เจดีย์แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี และสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2473
รอบๆ ของเจดีย์ได้ตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริด และพระพุทธรูปศิลาขาว จำนวน 10,000 องค์ โดยลักษณะของที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน และ พม่า เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เจดีย์แห่งนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น ด้านในตกแต่งด้วยจิตรกรรมที่เกี่ยวกับประวัติของพระพุทธเจ้า เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้อีกด้วย

ขึ้น sky lift ไปชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม

นอกจากเจดีย์สมเด็จที่เลื่องชื่อแล้ว อีกสิ่งที่โด่งดังไม่แพ้กัน นั่นก็คือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ หากใครต้องการที่จะชมวิวเมืองปีนัง หรือขึ้นไปไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ก็สามารถเดินขึ้นบันได หรือขึ้น sky lift ได้ หากขึ้น sky lift ก็จะเสียค่าบริการทั้งหมด 2 RM (ประมาณ 15 บาท) เมื่อมาถึงด้านบนแล้ว เราจะเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่หล่อด้วยสำริด สูง 30.2 เมตรประดิษฐานอยู่บนยอดเขา โดยองค์กวนอิมนั้นจะหันหน้าเข้าเมืองจอร์จทาวน์ เพื่อปกปักรักษาเมืองนั่นเอง เพื่อนๆ สามารถขึ้นไปกราบไหว้ขอพรเพื่อความศิริมงคล และเดินชมวิวจอร์จทาวน์ต่อได้เช่นกัน

ชมวิวเมืองจอร์จทาวน์

นอกจากจะมาไหว้พระสักการะเจ้าแม่กวนอิมแล้ว เพื่อนๆ สามารถขึ้นมาชมวิวเมืองจอร์จทาวน์สวยๆ ที่วัดเก็กลกสี่ ได้เช่นเดียวกัน บรรยากาศรอบๆ มีความเย็นสบาย ไม่ร้อน ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และสามารถมองเห็นเมืองจอร์จทาวน์ได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้รอบๆ วัดก็ยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์องใหญ่ รูปปั้นจตุรเทพ หรือบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ฟ รับรองว่าเพลิดเพลินจนไม่อยากกลับแน่นอน

การเดินทาง

• รถบัส : Bus Terminal Komtar จุดขึ้นรถประจำทาง Lane 2 สาย 204 หรือนั่งสาย 203 ลงป้ายบริเวณ AIR ITAM MARKET สุดสาย
• บริการ Grab taxi

ข้อแนะนำ

การเดินทางมาเยี่ยมชมวัดเก็กลกสี่ เนื่องจากตัววัดมีขนาดใหญ่ แนะนำว่าควรเผื่อเวลาในการเที่ยวชมประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และชมความงามของสถาปัตยกรรมได้อย่างเต็มอิ่ม

สรุป

ใครที่ชื่นชอบความงดงามของสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานระหว่าง ไทย จีน พม่า ความอลังการของตัววัดและเจ้าแม่กวนอิม หรืออยากมาสัมผัสบรรยากาศร่มเย็น ชมวิวเมืองเพลินๆ จากด้านบน การมาเที่ยวที่วัดเก็กลกสี่ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในลิสต์น่าไปที่ไม่ควรพลาด ใครจะมาที่นี่ แนะนำว่าต้องมีเวลา 2-3 ชั่วโมงน้า ถึงจะเดินได้ทั่วแน่นอน