วิธีการเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน ข้อมูลครบสำหรับคนบินครั้งแรก

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการไปเที่ยวต่างประเทศกัน ซึ่งแป้งเชื่อว่าครั้งแรกในการเดินทางไปต่างประเทศของทุกๆ คน หลายคนก็น่าจะตื่นเต้นแล้วก็ไม่รู้จะเตรียมตัวยังไง ขั้นตอนจะยุ่งยากไหม วันนี้แป้งสรุปมาให้แล้วค่ะ เริ่มกันตั้งแต่เดินทางไปสนามบินเลยแล้วกัน

ไปสนามบิน เผื่อเวลาเท่าไหร่?

สนามบินของบ้านเราที่กรุงเทพ จะมีอยู่ 2 ที่ด้วยกัน ก็คือ สนามบินดอนเมือง (วิภาวดี-รังสิต) และสนามบินสุวรรณภูมิ (บางพลี สมุทรปราการ) ปกติแล้วเคาน์เตอร์เช็คอินจะเปิดก่อนเครื่องออกประมาณ 3 ชั่วโมง แป้งแนะนำว่าเราควรไปตั้งแต่เคาน์เตอร์เปิดเลยค่ะ เพราะคนจะต่อแถวเช็คอินยาวมาก และป้องกันว่าตอนเดินทางรถจะติด และเพื่อไม่ให้ต้องรีบรนกลัวตกเครื่อง แนะนำว่าไปเผื่อก่อนดีกว่านะคะ

ไปสนามบินดอนเมืองด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

• Airport Shuttle Bus ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้บริการบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3 ตั้งแต่ เวลา 05.00 น. ถึง 24.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีตั๋วสำหรับการเดินทาง
• Airport Link สามารถเดินทางโดยแอร์พอร์ตลิงค์ โดยขึ้นที่สถานีพญาไท ซึ่งจะมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีพญาไท
• รถส่วนตัว (มีที่จอดรถสำหรับค้างคืน)
  สามารถจองผ่าน http://www.valetparkingdonmueang.com/page/valet022017.html และนำรถเข้าไปได้เลย มี 2 จุดด้วยกัน คือ
  1. Terminal 1 ขาออกประตู 1, ขาเข้าประตู 3
  2. Terminal 2 ขาออก/ขาเข้า, ประตู 15

ไปถึงสนามบินแล้วทำยังไงต่อ?

เมื่อไปถึงสนามบิน ให้ไปดูที่บอร์ดว่าสายการบินของเราต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์เบอร์อะไร เวลาเปิดเคาน์เตอร์คือกี่โมง หลังจากนั้นสามารถไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของเราได้เลย

วิธีการเช็คอิน

1. ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน
2. ชั่งน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดขึ้นเครื่อง ตรงนี้ในกระเป๋าสำหรับโหลดขึ้นเครื่อง ห้ามมี Power Bank, ถ่านและแบตเตอรี่ต่างๆ
3. เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการเสร็จแล้ว เราจะได้ Boarding Pass พร้อมพาสปอร์ตกลับมา
4. นำกระเป๋าที่จะโหลดขึ้นเครื่องไปที่โซนด้านข้าง จะมีเครื่องสแกนและเจ้าหน้าที่รอรับกระเป๋าอยู่

สัมภาระที่จะนำขึ้นเครื่อง ห้ามพกอะไรบ้าง?

สำหรับสัมภาระที่จะนำขึ้นเครื่อง สามารถนำขึ้นได้คนละ 2 ใบ รวมแล้วน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ส่วนของที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง มีดังนี้

1. ของเหลวทุกชนิดที่มีปริมาณเกิน 100 มล. ต่อบรรจุภัณฑ์ (ถึงแม้ว่าในขวดจะมีไม่ถึงก็ไม่ได้นะคะ ทางเจ้าหน้าที่จะดูจากตัวเลขบนบรรจุภํณฑ์เท่านั้นค่ะ) เช่น น้ำหอม ครีม โลชั่น เซรั่ม รวมถึงน้ำด้วย
2. Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรอง ห้ามมีขนาดความจุเกิน 32000 mah
3. อาวุธหรือของมีคมทุกชนิด เช่น มีด กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ คัตเตอร์
4. วัตถุไวไฟ เช่น ไฟแช็ค
5. สารอันตรายทุกชนิด

ของที่เตรียมขึ้นเครื่องไป ยังไงก็ได้ใช้ชัวร์!

ปากกาน้ำเงิน สำหรับกรอกเอกสารคนเข้าเมือง

ขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

Passport Control เมื่อถึงจุดตรวจให้ยื่นพาสปอร์ตและ Boarding Pass ให้กับเจ้าหน้าที่ จุดนี้จะมีการแบ่งช่องสำหรับคนไทยและชาวต่าวชาติ ให้เลือกเข้าช่องสำหรับคนไทย

การสแกนสัมภาระ เมื่อมาถึงจุดตรวจให้แสดงพาสปอร์ตและ Boarding Pass กับเจ้าหน้าที่ และนำสัมภาระวางลงบนถาด สำหรับเครื่องประดับต่างๆ ต้องถอดออกมาวางบนถาดด้วยนะคะ (สำหรับบางสนามบินต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ)

Gate เมื่อสแกนสัมภาระเรียบร้อย ให้ดูเกตที่จะขึ้นเครื่อง และเวลาให้เรียบร้อย โดยควรเดินไปสำรวจหน้าเกตก่อนว่าเลขไฟลท์ถูกต้องไหม และไกลมากหรือเปล่า บางครั้งเราอาจจะเผลอใจอยากช้อปปิ้งระหว่างทางเดิน ยังไงก็เผื่อเวลากันด้วยนะคะ

ขึ้นเครื่องบินแล้ว ทำยังไงต่อ?

• หลังจากขึ้นเครื่องไปแล้ว ให้เอาสัมภาระเก็บขึ้นด้านบนที่นั่งตัวเองให้เรียบร้อย ส่วนสัมภาระหรือกระเป๋าที่จะหยิบใช้บ่อยๆ ให้เอาไว้ใต้เก้าอี้ด้านหน้าของตัวเอง ไม่เอาของวางทิ้งไว้บนตัก
• หลังจากนั้นนั่งที่ของตัวเองและคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย อ่านวิธีการใช้อุปกรณ์หรือการแก้ปัญหาเมื่อเกิดภัยฉุกเฉินที่เอกสารในตะกร้าด้านหน้าตัวเอง และดูการสาธิตจากเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน
• ปิดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดให้เรียบร้อย
• หากต้องการเข้าห้องน้ำ ให้รอสัญญานไฟคาดเข็มขัดดับลงก่อน และเดินไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด
• ระหว่างอยู่บนเครื่อง เจ้าหน้าที่จะนำเอกสารคนเข้าเมืองมาแจก ให้เรากรอกข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนลงจากเครื่อง

ถึงที่หมายแล้ว ต้องทำอะไรบ้าง?

ลงจากเครื่องบิน ตรวจสัมภาระให้เรียบร้อยว่าครบถ้วน เรียบร้อยหรือไม่ หลังจากนั้นเดินไปตามทาง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง

ให้เลือกเข้าช่องสำหรับ Visitor (สำหรับชาวต่างชาติ) แสดง Boarding, พาสปอร์ต และใบตม. ที่กรอกข้อมูลแล้วให้เจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ประทับตราในพาสปอร์ตก็เตรียมไปรอรับกระเป๋าได้เลย

เมื่อมาถึงโซนรับกระเป๋า จะมีจอแสดงไฟลท์บอกว่าไฟลท์ของเรา รับกระเป๋าที่สายพานเบอร์อะไร หลังจากนั้นให้ไปรอรับกระเป๋าได้เลย

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะทุกคน ออกไปเที่ยวกันเถอะ เห็นไหมคะว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลย อาจจะดูขั้นตอนเยอะซักหน่อย แต่เชื่อว่าถ้าไปถึงเราทำได้แน่นอน เพราะบรรยากาศรอบๆ ข้าง จะบอกเราเองว่าต้องทำอะไรบ้าง

แป้งสนับสนุนให้ทุกคนออกไปเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยตัวเองกันนะ