โซล หรือประเทศเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็นของกิน เครื่องสำอาง สถานที่เที่ยว รวมถึงศิลปินต่างๆ แต่อาหารนั้นเป็นความรักสากลรวมถึงพวกเราด้วย
ด้วยกระแสความนิยม ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี และวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลีใต้ พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “กระแสเกาหลี” ได้เปลี่ยนโซลให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในเอเชีย โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 17.5 ล้านคนในปี 2562
แต่ก็อาจจะมีผลกระทบภาคอุสาหกรรมบางส่วน ทำให้การท่องเที่ยวถดถอยลงไป แต่สำหรับใครที่กำลังอยากลองเดินทางไปสัมผัสโซล เกาหลีใต้ ซักครั้ง อ่านบทความนี้ รับรองว่าไปเที่ยวได้สบายๆ แน่นอน
ไม่ว่าจะย่านน่าเที่ยว ที่พัก การเดินทาง และอาหารแสนอร่อย
วีซ่าสำหรับการเดินทางไปเกาหลีใต้
คุณอาจต้องมีวีซ่าและเอกสารการเดินทางเพิ่มเติมเพื่อเข้าเกาหลีใต้ ขึ้นอยู่กับหนังสือเดินทางของเรา สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ iVisa.com เพื่อทำความเข้าใจข้อกำหนดเบื้องต้น และยื่นขอวีซ่าหากจำเป็น
For Thai people, there is no need to apply for a visa. Registering for K-ETA, or Korea Electronic Travel Authorization, is an online registration system to request entry into South Korea without a visa. There must be registration and delivery of travel information. Attach evidence and various documents into the system for the Immigration Department Inspected Proceed with approval for those who will travel to South Korea for two years. Once approved, those who will travel to Korea do not need to fill out the information on the Arrival card when arriving at the immigration checkpoint in South Korea.
You can register at https://www.k-eta.go.kr/portal/apply/index.do.
If you want to see how to register for K-ETA, you can click here.
ภาพรวมของกรุงโซล
โซล เป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 10.29 ล้านคน แต่ถ้าหากลองคำนึงถึงภูมิภาคโดยรอบ ประชากรจะเพิ่มขึ้นเป็น 25.6 ล้านคน ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่มหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ภาพรวมของ โซล เมืองหลวงแห่งเกาหลีใต้
เนื่องจากมีจำนวนพนักงานจำนวนมากที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงไม่น่าแปลกใจที่โซลได้รับการจัดอันดับให้เป็น เมืองที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ตามหลังเพียงโตเกียว นิวยอร์กซิตี้ และลอสแอนเจลีสในแง่ของ GDP
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้รับความสนใจจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์ และความบันเทิง แบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung และ Hyundai ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก
ละครเกาหลี และศิลปินเคป๊อปได้รับความนิยม มีผู้ชมทั่วโลก ส่วนเมียงดงเป็นศูนย์กลางสำหรับผลิตภัณฑ์ความงาม และอาหารเกาหลีสตรีทฟู้ด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เกาหลีใต้กำลังเจริญรุ่งเรือง และโซลเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมโซล เกาหลีใต้
เกาหลีใต้มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน-ต้นเดือนพฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศดี และวิวสวย
จุดเด่นที่พลาดไม่ได้เลย คือฤดูใบไม้ผลิที่จะเต็มไปด้วยสีชมพูและสีขาวของดอกซากุระ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงจะป็นสีแดง ส้ม และเหลือง ฤดูกาลแต่ละช่วง
มีนาคม-พฤษภาคม: ฤดูใบไม้ผลิเป็นเวลาที่ดี เหมาะกบการท่องเที่ยว อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป และเมืองก็ประดับประดาไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 4 องศา เดือนเมษายนจะขึ้นมาเป็น 11 องศา และเดือนพฤษภาคมที่ 17 องศา โดยในตอนกลางวันอาจจะมีอุณหภูมิสูงถึง 25 องศา มีปริมาณฝนตกน้อย เหมาะแก่การท่องเที่ยว และในช่วงเวลานี้แหละ ที่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระสวยๆ แต่ความสวยจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ แนะนำว่าเช็คพยากรณ์อากาศ และวันในการบานของดอกไม้ก่อนจองตั๋ว จะแน่นอนที่สุด หรือลองเข้าไปเช็คจากเว็บไซต์ Visit Korea เพื่อดูข้อมูลอัปเดตอีกครั้ง
มิถุนายน-สิงหาคม: ฤดูร้อน สำหรับอากาศในฤดูร้อน อากาศร้อนชื้นเกือบเท่ากับเมืองไทย มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 20 กว่าองศา แต่ในช่วงกลางฤดูอาจจะมีอุณหภูมิสูงถึง 30 องศา เป็นฤดูที่มักจะมีฝนตก และมีลมพายุมรสุมอีกด้วย หากเป็นไปได้แนะนำว่าเลี่ยงช่วงหน้าร้อนจะดีกว่าค่ะ
กันยายน-พฤศจิกายน: ในช่วงนี้อากาศจะเย็นสบาย แต่อาจจะมีฝนตกบ้าง มีอุณหภูมิเฉลี่ยโดยทั่วไปประมาณ 10 องศา แต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศจะเริ่มหนาวเย็นลง ในวันที่หนาวมากๆ อุณหภูมิอาจจะลงต่ำกว่า 0 องศาได้ ในฤดูนี้เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาท่องเที่ยวที่โซล เพราะนอกจากสภาพอากาศที่ดีแล้วยังเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย แนะนำว่าช่วงปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤศจิกายน จะกำลังสวยเลย
ธันวาคม-กุมภาพันธ์: ใครชอบความหนาว หรือต้องการสัมผัสหิมะ ต้องช่วงนี้เลย โดยรวมสภาพอากาศจะค่อนข้างแห้ง และหนาวจัด มีอุณหภูมิโดยทั่วไปประมาณ 0 องศา แต่ในช่วงที่หนาวจัดอาจจะมีอุณหภูมิลดต่ำลงไปถึง -10 กว่าองศาเลย และยังกินระยะเวลานานถึงจะมีหิมะตกมาก บางครั้งอาจจะเป็นพายุหิมะได้เช่นกัน หากใครอยากสัมผัสหิมะ อีกหนึ่งที่ยอดฮิตของเกาหลีในช่วงหน้าหนาว ก็คือ สกีรีสอร์ท
สภาพภูมิอากาศของกรุงโซล
หากต้องการข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพอากาศของโซล โปรดไปที่หน้า weather-and-climate.com เกี่ยวกับ สภาพอากาศของโซล ส่วนภาพด้านล่างนี้จะเป็น กราฟอุณหภูมิเฉลี่ย และปริมาณน้ำฝนรายปี สำหรับใครลังเลอยู่ว่าจะไปเที่ยวในช่วงไหนดี เราขอแนะนำช่วงเดือนเมษายน ตุลาคม และพฤศจิกายน
อุณหภูมิเฉลี่ย
ปริมาณน้ำฝนประจำปี
การเดินทางไปโซล
การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่จะมาลงที่สนามบินนานาชาติอินชอน ซึ่งการเดินทางเข้าเมืองก็มีหลายวิธี สำหรับรายละเอียดการรับส่งสนามบินเพิ่มเติม โปรดดูที่ เว็บไซต์นี้
หากต้องการความเร็ว และสะดวกสบาย ขอแนะนำเป็น AIRPORT EXPRESS (AREX): เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเข้าถึงเมืองจากสนามบิน ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปถึงสถานีโซลภายใน 51 นาที รถไฟสะอาดสะอ้าน และมี Wi-Fi ฟรี สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้าออก (11,000 วอน) แต่จะมีส่วนลดให้หากคุณซื้อล่วงหน้าผ่าน Klook การจะซื้อตั๋วแบบ Express ต้องใช้เงินสด หรือเครดิตการ์ด สำหรับเครื่องนี้จะไม่รับบัตร T-Money นะคะ ส่วนรถไฟแบบธรรมดาที่จอดทุกสถานี (All Train) จุดสังเกตคือประตูสีฟ้าจะเขียนว่า all stop train ส่วนตัวแนะนำแบบ Express เพราะจะระบุที่นั่ง ทำให้ไม่ต้องลุ้นว่าจะมีที่นั่งไหม ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย มีที่วางกระเป๋า สามารถเลือกตามความต้องการ และความสะดวกของแต่ละคนได้เลย
โดยรถไฟแบบจอดทุกสถานี: จะแวะทุกป้ายที่ขับผ่าน ราคาเที่ยวละ 6,550 วอน สามารถซื้อบัตรที่ตู้ได้เลยรับทั้งเงินสดและบัตร T-Money แต่ไม่รับเครดิตการ์ด รถไฟให้บริการตั้งแต่เวลา 05:23 น. ถึง 23:40 น. หรือใครไม่อยากนั่งรถไฟ ก็มีรถบัสจากสนามบินเข้าตัวเมืองโซลเช่นกัน
โดยรถบัส: ตั๋วรถบัสเที่ยวเดียวราคา 5,000-15,000 วอนวอน และใช้เวลานานกว่ารถไฟใต้ดิน (ประมาณ 80 นาที) ดังนั้นเหมาะกับคนที่ไม่รีบเร่ง หรืออาจจะอยากนอนพักซักงีบก่อนถีงปลายทาง รถบัสสนามบินช่วงดึกไปยังสถานีโซลให้บริการตั้งแต่เวลา 00.00 น. – 04.40 น. ในขณะที่รถบัสไปยังสถานีขนส่ง Gangnam Express ให้บริการตั้งแต่เวลา 23.40 น. – 04.20 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางรถประจำทาง และป้ายจอดได้ที่โต๊ะบริการข้อมูลสนามบินชั้น 1
แท็กซี่: สำหรับใครที่สัมภาระเยอะ หรือต้องการความสะดวกสบาย สามารถใช้บริการแท็กซี่ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน การนั่งแท็กซี่ไปในเมืองใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายระหว่าง KRW 65,000-100,000
คนขับรถส่วนตัว นี่เป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า ใครชอบแบบไหนก็เลือกตามชอบได้เลย คลิกลิงก์เพื่อจองบริการรับส่งสนามบินแบบส่วนตัวผ่าน Klook
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการรับส่งสนามบิน ดูได้เพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Visit Korea
แลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ที่ไหน
หน่วยเงินตราของกรุงโซลคือ วอนเกาหลี (KRW)
เมียงดง เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการแลกเงิน เนื่องจากบริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านรับแลกเปลี่ยนเงินที่ให้ราคาที่ค่อนข้างดีในเมือง เนื่องจากที่อื่นๆ มีร้านรับแลกน้อย และยังเรทราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย
แนะนำว่าให้แลกเงินสดไปบางส่วนจากไทย และส่วนมากไว้ในบัตร Travel Card เนื่องจากปัจจุบันส่วนมากร้านรับจ่ายผ่านบัตรกันเป็นส่วนมากแล้ว
แต่สำหรับใครที่ถนัดใช้เงินสดมากกว่า แนะนำให้แลกไว้ในบัตร Travel Card แล้วกดเงินที่ตู้ ATM โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ลองเลือกบัตร Travel Card ที่คุ้มค่า ส่วนตัวใช้เป็น Youtrip และ SCB Planet ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ จากบัตรของตัวเองอีกทีนะคะ แต่โดยส่วนมากจะไม่ม่ค่าธรรมเนียมในการกด ATM และระหว่างที่ใช้ยังไม่เจอปัญหาอะไรในการใช้บัตร
เคล็ดลับ: ตู้ ATM บางแห่งอาจแจ้งให้คุณดำเนินการต่อ “โดยมีหรือไม่มีการแปลง” เลือกโดยไม่มีการแปลงเสมอ การเลือก “พร้อมการแปลง” ช่วยให้ธนาคารต่างประเทศที่ดำเนินการตู้เอทีเอ็มสามารถทำการแปลงโดยใช้อัตราที่เราต้องการได้ โดยความแตกต่างของอัตราอาจสูงถึง 10%
พักที่ไหนในกรุงโซล
จากที่ลองหาข้อมูลตามย่านต่างๆ ทั้ง เมียงดง อินซาดง ฮงแด และอิแทวอน สี่ย่านนี้เป็นย่านยอดนิยมสำหรับการพักในกรุงโซล ซึ่งแต่ละพื้นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ใครชอบแนวไหน แนะนำให้พักแถวๆ ย่านนั้น
สำหรับเมียงดง ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักช้อป รวมถึงสายสตรีทฟู้ดอีกด้วย ในขณะที่อินซาดงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศิลปะของเมือง ส่วนฮงแด ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและทันสมัย ผู้คนค่อนข้างคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน และอิแทวอนเป็นย่านนานาชาติของโซล โดยส่วนตัวเราเลือกพักย่านฮงแด เนื่องจากชอบย่านนี้มากกว่าย่านอื่นๆ
สามารถค้นหาโรงแรมในโซลได้ที่ Booking.com และ Agoda
เมียงดง
สำหรับผู้ที่ชอบช้อปปิ้ง เมียงดงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักในโซล ย่านช็อปปิ้งที่คึกคักแห่งนี้มีแบรนด์ดัง ร้านบูติก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสตรีทฟู้ดริมถนนมากมาย รวมถึงเครื่องสำอาง และสกินแคร์ต่างๆ บอกเลยว่านอนย่านนี้ละลายทรัพย์ทุกวันแน่นอน
สามารถดูโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ Booking.com และ อโกด้า สำหรับโรงแรมอื่น ๆ ในเมียงดง ตัวอย่างโรงแรมที่ติดอันดับต้น ๆ ในย่านนี้:
- หรูหรา: โรงแรมลอตเต้ โซล เอ็กเซ็กคิวทีฟ ทาวเวอร์
- ระดับกลาง: L7 เมียงดง โดย LOTTE
- ย่อมเยา: โรงแรม MIDO เมียงดง
อินซาดง
สำหรับย่านนี้ยังไม่เคยเข้าพักเช่นกัน แต่ใครที่ชอบร้านค้าแบบดั้งเดิม ร้านบูติก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านน้ำชามากมาย ต้องย่านนี้เลย นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เช่น พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังชังด็อกกุง และหมู่บ้านบุกชอนฮันอก
สามารถดูโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ Booking.com และ อโกด้า ตัวอย่างโรงแรมที่ติดอันดับต้น ๆ ในย่านนี้:
- หรูหรา: Orakai Insadong Suites
- ระดับกลาง: โรงแรมซันบี อินซาดง โซล
- ย่อมเยา: ดัลจีเกสต์เฮาส์
ฮงแด
เราชอบช้อปปิ้งและความคึกคัก เราเลยเลือกพักที่ฮงแด บริเวณนี้เป็นบริเวณที่เราชื่นชอบ และเราอาจเลือกบริเวณนี้อีกครั้ง และถ้ามารอบหน้าก็อาจจะนอนในย่านนี้อีกเช่นกัน
เวลาที่เข้าพักล่าสุด เราเลือกพักที่โรงแรมโบโบ้ เราอาจจะต้องเดินสักหน่อย แต่ไม่ไกลจากฮงแดมากนัก ถ้าคุณชอบฮงแดเหมือนกัน ลองดูเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อดูที่พักอื่นๆ: Booking.com | อโกด้า. ตัวอย่างโรงแรมที่ติดอันดับต้น ๆ ในย่านนี้:
- หรูหรา: RYSE, Autograph Collection Marriott
- ระดับกลาง: Daol เกสท์เฮาส์
- ย่อมเยา: ไฮสตรีทเกสต์เฮาส์
อิแทวอน
ย่านอิแทวอน เป็นย่านที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยมีร้านค้าและร้านอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา ทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ สามารถดูโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ Booking.com และ อโกด้า ตัวอย่างโรงแรมที่ติดอันดับต้น ๆ ในย่านนี้:
- หรูหรา: โรงแรมแฮมิลตัน
- ระดับกลาง: โรงแรมอิมพีเรียล พาเลซ บูติค
- ย่อมเยา: G Guesthouse Itaewon ในกรุงโซล
สามารถจองโรงแรม และโฮมสเตย์ในโซลได้ง่ายๆ
สถานที่ที่น่าเช็คอินซักครั้งในโซล
โซลเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและเป็นสากลพร้อมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน มาดูกันว่าในโซลจะมีถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งไหนในเมืองบ้างที่น่าแวะไปเช็คอิน เริ่มกันที่
1. พระราชวังทั้งห้าอันสง่างาม
พระราชวังโชซอนที่ได้รับความนิยม 5 แห่ง ได้แก่ คยองบกกุง ชางด็อกกุง ชางกยองกุง คยองฮุยกุง และด็อกซูกุง แต่สำหรับเราไปที่พระราชวังเคียงบกกุงเพียงที่เดียว เนื่องจากแพลนทริปของเราค่อนข้างแน่น
พระราชวังเคียงบกกุง เป็นพระราชวังที่ใหญ่ และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก พระราชวังเคียงบกกุงทำหน้าที่เป็นพระราชวังหลัก และเป็นหนึ่งในสองพระราชวัง (อีกแห่งคือพระราชวังด็อกซูกุง) ที่เราจะได้เห็นการปลี่ยนแปลงราชองครักษ์ ชางด็อกกุง แหล่งมรดกขององค์การยูเนสโก ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันกับฮูวอนหรือ “สวนลับ”
สามารถไปเข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร หรือหากต้องการรับบริการทัวร์พร้อมไกด์ สามารถเข้าไปจองได้ที่ Klook และอีกอย่างที่อยากให้ลองทำเมื่อไปพระราชวัง คือ การเช่าชุดฮันบก
ระยะเวลาการเยี่ยมชมที่แนะนำ: 1-3 ชั่วโมง สำหรับแต่ละวัง ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: KRW 1,000-3,000 สำหรับแต่ละพระราชวัง
2. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก
แม้จะเป็นเมืองที่ทันสมัย แต่โซลยังคงรักษาเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ไว้ในสถานที่ต่างๆ เช่น หมู่บ้านบุกชอนฮันอก หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยเต็มไปด้วยตรอกแคบๆ และบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิมที่รู้จักกันในชื่อฮันอก
การเดินเล่นไปตามถนนที่เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้เราเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโซลเมื่อ 600 ปีที่แล้ว นอกจาก เช่าชุดฮันบก ไปพระราชวังแล้ว เดินต่อมาอีกหน่อย แวะไปถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่กันด้วยน้า
ที่นี่ขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นานก็เดินครบ ได้รูปสวยๆ กลับบ้านแน่นอน หากคุณต้องการเจาะลึกประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านบุกชอนฮันอก ให้ลองเข้าร่วม ทัวร์เดินชมฟรี นี้
ระยะเวลาการเข้าชมที่แนะนำ: 1-2 ชม ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: ฟรี
3. หอคอย โซลทาวเวอร์
อีกหนึ่งพิกัดที่ต้องมาเยือน คือที่นี่เลย เอ็นโซลทาวเวอร์ เป็นสถานที่ที่นิยมขึ้นไปชมวิว จุดชมวิวตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 480 เมตร (1,575 ฟุต) เหมาะกับการชมวิวได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน
ที่นี่ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน สามารถเดินทางไปยังหอคอย N Seoul Tower ได้โดยใช้ถนนหรือกระเช้า สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้า แนะนำว่าเผื่อเวลาซักหน่อย เพราะคนค่อนข้างเยอะ
ระยะเวลาการเข้าชมที่แนะนำ: 1-2 ชม ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: KRW 28,000
4. ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (DDP)
ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (DDP) เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสพงานศิลป์ต้องแวะไปซักครั้ง ที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างพิพิธภัณฑ์ และความสวยงามของสถาปัตยกรรม มีโครงสร้างคล้ายยานอวกาศ
DDP เป็นผลงานการผลิตของ Zaha Hadid ผู้ล่วงลับไปแล้ว สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงเบื้องหลัง Olympic Aquatic Center ในลอนดอนปี 2012 และ Guangzhou Opera House ในประเทศจีน
ระยะเวลาการเยี่ยมชมที่แนะนำ: 2-3 ชม. ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: ฟรี แม้ว่านิทรรศการบางรายการอาจต้องเสียค่าเข้าชมก็ตาม
5. วัดพงอึนซา
วัดพงอึนซา เดิมชื่อวัดคยอนซองซา เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ทางตอนเหนือของ COEX ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 794 ในรัชสมัยของกษัตริย์ซิลลาพระเจ้าวงศ์ซอง ในปี 1498 วัดได้รับการตกแต่งใหม่ภายใต้พระราชินีจองฮยอน ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดบอนอึนซาด้วย ในตอนแรก วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสุสานหลวงของพระเจ้าซองจง แต่ถูกย้ายไปยังสถานที่ปัจจุบันในรัชสมัยของกษัตริย์โชซอน มยองจง วัดแห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์พุทธศาสนา 3,479 เล่มจาก 13 ประเภทที่แตกต่างกัน รวมถึงผลงานของคิมจองฮี ทุกๆ ปี ในวันที่ 9 ของเดือน 8 ทางวัดจะจัดพิธีพุทธชองแดบุลซา ในระหว่างกิจกรรมนี้ พระสงฆ์จะถือพระคัมภีร์บนศีรษะ เดินขบวน และท่องพิธีบัพซองเก ซึ่งเป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
ระยะเวลาการเยี่ยมชมที่แนะนำ: 30 นาที – 1 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: ฟรี
6. ห้องสมุดห้างสรรพสินค้า COEX มุมยอดฮิตสำหรับถ่ายรูป
COEX Mall ในย่านคังนัม เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีห้องสมุดที่สวยงาม และมีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางห้างสรรพสินค้า
Starfield Library เป็นห้องสมุดสาธารณะแบบเปิดโล่ง ที่มีหนังสือและนิตยสารหลายร้อยเล่ม ชั้นหนังสือที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นได้กลายมาเป็นจุดถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งของโซล
ระยะเวลาการเข้าชมที่แนะนำ: 2-3 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: ฟรี
สิ่งที่ต้องทำในโซล
โซล เมืองหลวงอันมีชีวิตชีวาของเกาหลีใต้ เป็นเมืองที่ผสมผสานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานเข้ากับความทันสมัยได้อย่างสวยงาม มีกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่การสำรวจวัดและพระราชวังโบราณ ไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือแหล่งช้อปปิ้งมากมาย บประสบการณ์รออยู่เพียบ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน
1. ประสบการณ์การสวมชุดฮันบก
สำหรับผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี หรือละครประวัติศาสตร์ การสวมชุดฮันบก ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของเกาหลี ที่สวมใส่ในช่วงเทศกาล และโอกาสพิเศษถือเป็นสิ่งที่น่าลองทำ
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก และพระราชวังทั้งห้าเหมาะกับการใส่ชุดฮันบกถ่ายภาพมากๆ ร้านเช่าชุดฮันบกมีมากมาย หรืออยากเช่าผ่าน Klook ก็ได้เช่นกัน
2. ตลาดเกาหลีแบบดั้งเดิม
ตลาดโลคอล เป็นแหล่งรวมอาหารท้องถิ่น ของกินเยอะ เดินสนุก อาหารอร่อย ใครอยากลองเดินตลอดแบบโลคอล ลองแวะไปที่ตลาดกวางจัง และตลาดนันแดมุน
3. สถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลาย
โซลมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และหลากหลายแนว แต่ย่านท่องเที่ยวที่โดดเด่นมี 4 ย่านด้วยกัน คืออินซาดง เมียงดง ฮงแด และอิแทวอน ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป
อินซาดงมีชื่อเสียงด้านศิลปะ และงานฝีมือแบบดั้งเดิม เมียงดงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ชื่นชอบแบรนด์สินค้าและความงาม ฮงแดมีกลิ่นอายของความเป็นเมืองชิคๆ วัยรุ่นเยอะ และอิแทวอนจะคึกคัก เหมาะกับการนั่งดื่มชิลๆ ยามค่ำคืน ใครชอบแนวไหนก็แวะไปเที่ยวกันดูน้า
4. เดินเล่นสบายๆ ไปตามลำธารชองกเยชอน
ลำธาร Cheonggyecheon ซึ่งเป็นทางน้ำยาว 11 กม. คดเคี้ยวผ่านใจกลางโซล ไหลผ่านสะพาน 22 แห่งและผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่งของเมืองก่อนจะรวมเข้ากับแม่น้ำฮัน ลำธารแห่งนี้เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ และเป็นสถานที่พักผ่อนที่สดชื่นในช่วงฤดูร้อน
ใครอยากไปเที่ยวชิลๆ และฟังเรื่องราวของคลองแห่งนี้ สามารถไปกับ ทัวร์เดินชมฟรี นี้ ได้
กินที่ไหนดี
โซลขึ้นชื่อในด้านวัฒนธรรมการทำอาหารที่หลากหลาย มีเมนูให้ลองเพียบ แต่สิ่งสำคัญเลยสำหรับบนโต๊ะอาหารเกาหลี คือเครื่องเคียง อาหารเกาหลีหลักๆ จะมีทั้งรสเผ็ด และรสหวาน มีเมนูให้ลองหลายอย่าง
มาดูกันว่าร้านที่เราอยากแนะนำ จะมีร้านไหนบ้าง จัดเต็มมาให้ทั้งร้านอาหารคาว หวาน และสตรีทฟู้ด เรียกว่าแค่กูก็น้ำลายสอแน่นอน จะน่ากินขนาดไหนมาดูกัน
ร้านที่อยากให้ไปลอง
อาหารมีทุกแนว ตั้งแต่ร้านอาหารระดับดาวมิชลิน ไปจนถึงแผงขายอาหารริมถนนธรรมดาๆ เมืองนี้รองรับทุกรสนิยม ไม่ว่าจะอยากลิ้มลองอาหารเกาหลีแท้ๆ หรืออาหารนานาชาติก็ตาม ร้านแรกของเราเลยคือ
1. ฮง จูกุมิ (홍스쭈꾸미 홍서본점)
ปลาหมึกผัดซอสร้านดังในย่านฮงแด ส่วนตัวชอบร้านนี้มาก ใครไปอยากให้ไปลอง ขนาดเราที่ไม่ค่อยกินปลาหมึกยังติดใจ หลักๆ จะเป็นปลาหมึกผัดซอส แต่เราสามารถเพิ่มเนื้อสัตว์อื่นๆ ลงไปได้ อย่างเราสั่งมาเป็นปลาหมึกและหมูสามชั้น ราคาจะแตกต่างกันไปตามเนื้อสัตว์ที่เราเลือก โดยราคาของร้านนี้จะเป็นราคาต่อคน อันที่เราเลือกมาอยู่ที่คนละ 16,000 วอน กินเสร็จทางร้านก็เอากระทะมาผัดข้าวคลุกกุ้ง ไข่ และสาหร่าย ถ้าชอบเผ็ดๆ แนะนำให้สั่งเผ็ด ส่วนใครไม่ทานเผ็ด ให้สั่งเผ็ดน้อยนะคะ เนื่องรสค่อนข้างจัดจ้าน ซอสคือเผ็ดเข้มข้นและอร่อย
2. Pro Soy Crab
ปูม้าดองในซอสถั่วเหลือง และซอสโคชูจัง มีหลายขนาดให้เลือก แนะนำให้สั่งข้าวสวยมาด้วย หลังจากทานปูดองหมดแล้ว ให้เอาข้าวสวยใส่เข้าไปในกระดองปู แล้วผสมกับไข่ และซอส บอกเลยนี่คือทีเด็ดจ้า ส่วนผสมที่สำคัญสำหรับจานนี้คือปูม้าและซีอิ๊ว
3.ไก่ทอดเจ้าดัง BHC
ไก่ทอดเจ้าดังที่มีหลายสาขาในโซล ไก่ทอดมีทั้งแบบธรรมดา และคลุกซอส หรือผงรสต่างๆ แม้ว่าชื่อจะสื่อถึงรสชาติที่เข้มข้นและเค็ม แต่อาหารจานนี้ก็รักษาสมดุลของรสชาติเผ็ดร้อนของไก่ทอดและซีอิ๊วหวานและเค็ม ไก่ทอดร้านนี้จานค่อนข้างใหญ่ แนะนำว่าไปกันหลายๆ คน จะได้สั่งหลายๆ รสได้ ไก่จะมีให้เลือกหลายส่วน ทั้งแบบไม่มีกระดูก แบบน่อง แบบปีก หรือรวมทั้งน่องและปีกก็ได้เช่นกัน ส่วนผสมหลักสำหรับจานนี้คือ ไก่ ผงรสต่างๆ
4.อันดงจิมดัก
ไก่ตุ๋น ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองอันดง จังหวัดคยองซังบุกโด เมนูง่ายๆ ที่อร่อย และอิ่มท้องสุดๆ เนื้อไก่นุ่มๆ กับเส้นหนุบหนับ น้ำซอสขลุกขลิกมีรสหวานนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ ใส่เครื่องมาจัดเต็มทั้งมันหวาน แครอท และผัก ส่วนตัวชอบเมนูนี้มาก ใครไปแล้วอยากให้ลองค่ะ ส่วนผสมหลักสำหรับจานนี้คือไก่ ซีอิ๊ว และผัก เช่น ต้นหอมและหัวหอม
5. พุงชอน จังออ (ปลาไหล)
ปลาไหลเป็นอาหารหลักในอาหารเกาหลีสำหรับเป็นอาหารบำรุง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ และกรดไขมันไม่อิ่มตัว และมีกรดอะมิโนที่เรียกว่าอาร์จินีนที่ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต
ร้านนี้จะเป็นปลาไหลย่าง ผิวด้านนอกมีความกรอบ เนื้อข้างในนุ่มมาก พนักงานที่ร้านจะย่างและสอนวิธีรับประทานแต่ละประเภท คนรักปลาไหลจะต้องชอบมัน
แม้ว่าปลาไหลจะถูกเตรียมด้วยวิธีต่างๆ ทั่วโลก แต่ในเกาหลี การย่างเป็นวิธีที่นิยมกัน ถ้ามันมันเกินไปให้จับคู่กับกับข้าว กินกับขิงขูด ซอสมัสตาร์ด ผักดอง หรือกิมจิต้นหอม รสชาติสดชื่นช่วยปรับสมดุลความมันของปลาไหลย่าง ทำให้เป็นเมนูที่อร่อยเมื่อทานเสร็จ
6. อาหารอร่อยที่ตลาดอาหารริมถนนเมียงดง
สตรีทฟู้ดคืออะไรที่ไม่อยากให้พลาด มีของกินให้เลือกหลากหลาย แต่ที่เมียงดงร้านซ้ำกันค่อนข้างเยอะ
แนะนำว่าไปกับเพื่อนๆ จะได้แบ่งกันทานได้หลายๆ อย่าง สำหรับสตรีทฟู้ดที่เมียงดงจะเปิดช่วงบ่ายแก่ๆ จนถึงช่วงดึก มีเมนูที่ชวนน้ำลายสอ เช่น หางล็อบสเตอร์ย่าง ไก่เสียบไม้กับต้นหอม และต็อกปกกี ซึ่งเป็นเค้กข้าวรสเผ็ด
ที่ยกมาให้ในนี้คือแค่น้ำจิ้ม ใครอยากดูรวมร้านทั้งหมดในโซล จากทริปของเรา ติดตามได้ที่ 25 ร้านอาหารที่ต้องไปเยือนในกรุงโซล
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป
โซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ เป็นเมืองระดับโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตั้งแต่วัดและพระราชวังเก่าแก่ไปจนถึงตึกสูง หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะชอบแนวไหน โซลก็มีที่ที่ให้เราแวะเวียนไปได้เสมอ มาดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
- พระราชวังเคียงบกกุง: พระราชวังเคียงบกกุงเป็นพระราชวังหลักของราชวงศ์โชซอนซึ่งปกครองเกาหลีมานานกว่า 500 ปี ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโซลและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในเมือง นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมบริเวณพระราชวังและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์โชซอน
- หมู่บ้านบุกชอนฮันอก: หมู่บ้านบุกชอนฮันอกเป็นหมู่บ้านเกาหลีแบบดั้งเดิมใจกลางกรุงโซล เป็นที่ตั้งของบ้านฮันอกมากกว่า 600 หลังซึ่งเป็นบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในหมู่บ้านและชื่นชมสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม
- เอ็นโซลทาวเวอร์: เอ็นโซลทาวเวอร์เป็นหอสื่อสารและสังเกตการณ์บนภูเขานัมซาน มีวิวเส้นขอบฟ้าของเมืองที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถเคเบิลขึ้นไปบนยอดหอคอยหรือเดินขึ้นภูเขาได้
- เมียงดง: เมียงดงเป็นย่านช้อปปิ้งสุดฮอตฮิตของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสตรีทฟู้ด ร้านเครื่องสำอาง และร้านเสื้อผ้า เรียกว่ามาถึงแหล่งช้อปปิ้งขนาดนี้ ต้องโดนละลายทรัพย์กันแน่นอน
- ตลาดนัมแดมุน: ตลาดนัมแดมุนเป็นตลาดดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ เป็นที่ตั้งของแผงขายของกว่า 10,000 แผงที่จำหน่ายทุกอย่างตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้า และของที่ระลึก นักท่องเที่ยวสามารถพบกับสินค้าต่างๆ ในราคาที่สมเหตุสมผลในตลาดนัมแดมุน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารอันยาวนาน โซลจึงเป็นเมืองที่มีทุกสิ่งสำหรับทุกคน
การเดินทางในโซล
ระบบรถไฟใต้ดินมีชื่อเสียงในด้านประสิทธิภาพ ทำให้กลายเป็นระบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้ แนะนำว่าให้ค้นหาปลายทางใน Never Map App จะมีเส้นทางการเดินทางแนะนำขึ้นมา จะรถไฟใต้กิน หรือรถบัสก็สะดวกมากๆ
รถไฟใต้ดินมีสถานีค่อนข้างเยอะ วิธีสังเกตให้ดูสีของเส้นการเดินทางนั้นๆ และตัวย่อสถานี เพื่อช่วยให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้น อาจจะมีการเปลี่ยนขบวน หรือเปลี่ยนสถานี แนะนำว่าให้ดูใน App เพื่อความแม่นยำมากยิ่งขึ้น การเดินทางในโซลไม่ยากอย่างที่คิด
แนะนำว่าให้ซื้อบัตร T-money เป็นบัตรเติมเงิน สามารถหาซื้อได้ที่สถานีรถไฟ หรือร้านสะดวกซื้อ ช่วยให้การเดินทางระหว่างรถไฟใต้ดิน รถประจำทาง สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น
บัตร T-money ราคา 5,000 วอน และสามารถซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อและสถานีรถไฟใต้ดินส่วนใหญ่ ในบัตรจะยังไม่มีเงิน เราสามารถเติมเงินได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินหรือร้านสะดวกซื้อ
แม้ว่า Google Maps จะเป็นเครื่องมือนำทางมาตรฐาน แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับประเทศเกาหลีซักเท่าไหร่ ดังนั้นแนะนำให้ใช้ NAVER Map แทน ( iOS | Android )
สิ่งที่ควรรู้สำหรับการเดินทางในโซล
โซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ เป็นเมืองระดับโลกที่มีชีวิตชีวาซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสเลิศ ภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง และคนในพื้นที่ที่มีอัธยาศัยดี ยังไง ก่อนที่จะสรุปแผนการเดินทางไปโซล อย่าลืมตรวจเช็คสิ่งเหล่านี้ก่อน อย่าลืมเตรียมพร้อม เพื่อการเดินทางอย่างสนุกสนาน
1. วีซ่า
พลเมืองของประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนใหญ่สามารถเที่ยวเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 90 วัน แต่ยังคงต้องยื่นขอการอนุมัติการเดินทาง ทางอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลี (K-ETA) อย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง แนะนำว่าควรยื่น K-ETA ให้ผ่านก่อน ค่อยทำการจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม K-ETA เป็นใบสมัครออนไลน์ หากได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีอายุการใช้งานสองปีนับจากวันที่ได้รับการอนุมัติ
2. อุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพา
การเชื่อมต่อ Wi-Fi ถึงเกาหลีจะมี Wi-Fi ฟรีมากมาย แต่ขอแนะนำให้ให้เตรียม sim หรือพก Pocket Wi-Fi ติดตัวไปด้วย เนื่องจากการเดินทาง หรือติดต่อผู้อื่นจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต ในบางครั้งเราก็ซื้อ SIM จากไทยไป หรือไม่ก็มักจะเช่าอุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพาก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในกรุงโซลได้ด้วยการเช่าอุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพาหรือซื้อซิมการ์ด แม้ว่าโดยทั่วไปเราจะเลือกใช้อุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพา แต่ซิมการ์ดก็เป็นทางเลือกที่ใช้งานได้และมักจะถูกกว่า
ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน สามารถเช่าอุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพาหรือซื้อซิมการ์ดผ่าน Klook ได้ หรือลองดูแพ็คเกจโรมมิ่ง หรือ SIM จากบ้านเราไปก่อนเลยก็ได้เช่นกัน
3. ซื้อตั๋วพระราชวังแบบรวม
ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วพระราชวังแบบรวมสำหรับผู้ที่สำรวจพระราชวังหลายแห่งในกรุงโซล โดยปกติแล้ว การเข้าชมพระราชวังสำคัญทั้งสี่แห่ง ได้แก่ ชางด็อกกุง (รวมถึงฮูวอน), ชางกย็องกุง, ด็อกซูกุง, คยองบกกุง – และศาลเจ้าจองเมียว จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใหญ่รวม 17,000 วอน อย่างไรก็ตาม ด้วยตั๋วพระราชวังแบบรวม คุณสามารถเข้าชมทั้ง 5 แห่งได้ในราคาเพียง 10,000 วอนวอน
4. พิจารณาบัตร Discover Seoul Pass
ถ้าใครวางแผนที่จะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไฮไลต์ไว้แนะนำให้ซื้อบัตร Discover Seoul Pass บัตรท่องเที่ยวนี้ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของกรุงโซลได้ฟรี หากคุณซื้อบัตร Discover Seoul Pass ก็ไม่จำเป็นต้องมีตั๋วพระราชวังแบบรวม เนื่องจากรวมสิทธิ์เข้าชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ทั้งห้าฟรีแล้ว
นอกจากสิทธิ์เข้าสถานที่ท่องเที่ยวฟรีแล้ว บัตร Discover Seoul Pass ยังมีฟังก์ชัน T-money และส่วนลดที่แหล่งช้อปปิ้งและสถานบันเทิงต่างๆ ในกรุงโซลอีกด้วย สามารถซื้อบัตร Discover Seoul Pass แบบ 24, 48 หรือ 72 ชั่วโมงได้ที่ Klook
5. มองหาบัตรส่วนลด
หากมั่นใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง และมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม แนะนำว่าให้ซื้อออนไลน์จากไทยไปเลย เพื่อความสะดวกสบาย ไม่ต้องต่อแถวซื้อเมื่อไปถึง รวมถึงราคาในบางครั้งก็ดีกว่าซื้อที่ด้านหน้าทางเข้า ส่วนมากเราจะซื้อใน Klook พวกเขามีตัวเลือกที่หลากหลายที่สุดในราคาที่แข่งขันได้มากที่สุด
หากกำลังมองหาส่วนลดสำหรับทัวร์ การแสดง สวนสนุก และบริการรับส่งสนามบินในกรุงโซล ลองเข้าไปดูก่อนได้ค่ะ Klook ซึ่งบางทีอาจจะเจอกิจกรรมที่น่าสนใจจากในนี้ได้เช่นกัน
7. อะแดปเตอร์แปลงไฟที่เหมาะสม
ในเกาหลีใต้ เต้ารับไฟฟ้าโดยทั่วไปจะเป็นทรงกลมเพื่อรองรับปลั๊ก Type C หรือ Type F อย่าลืมเตรียมปลั๊กสำหรับแปลงไฟให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง สำหรับแรงดันไฟฟ้ามาตรฐานคือ 220/230V
ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทาง และการหาประสบการณ์ใหม่ๆ
ถึงเราจะไม่ได้เชี่ยวชาญในโซล แต่เราก็อยากจะแบ่งปันเรื่องราว และประสบการณ์ที่เราได้รับมาเช่นกัน หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการออกไปเที่ยวนะคะ